หลาย ๆ คนมีปัญหาว่าจะเลือกซื้อโคมไฟแต่งบ้านยังไงให้ตรงใจ เข้าร้านขายเฟอร์นิเจอร์ทีไร ก็เจอโคมไฟหลากหลายดีไซน์ ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟแขวน โคมไฟตั้งโต๊ะ โคมไฟติดพนัง ฯลฯ LAMPTAN เข้าใจดีครับ งานดีไซน์ก็สวย ๆ ทั้งนั้นเลือกยากเหลือเกิน แล้วโคมไฟแต่ละประเภทเหมาะกับการใช้งานแบบไหน
วันนี้ LAMPTAN มีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับการใช้งานโคมไฟแต่ละแบบมาฝากครับ
โคมไฟห้อย (CHANDELIER) ใช้สําหรับส่องเฉพาะเจาะจงบนพื้นที่เพื่อสร้างให้เกิดความรู้สึกชวนให้รวมกลุ่มทํากิจกรรมร่วมกัน มักใช้ในห้องรับประทานอาหารหรือบริเวณเหนือชานพักบันได หรือบริเวณโถงทางเข้า
โคมไฟโต๊ะทำงาน (TASK LIGTH) เป็นโคมไฟที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานบนโต๊ะทำงาน จึงต้องสามารถปรับมุมหรือทิศทางได้ง่าย และสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่ายช่วยลดแสงสะท้อนจากโคมไฟชนิดอื่น ๆ ภายในห้องได้อีกด้วย
โคมไฟชนิดราง (TRACK LIGHT) เป็นโคมไฟที่เหมาะกับการส่องวัตถุหรือรูปภาพที่มักจะไม่อยู่ในตำแหน่งที่ แน่นอนตายตัว สามารถขยับหรือเลื่อนดวงโคมให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการได้ง่าย สำหรับการติดตั้งบนฝ้าเพดานที่มีความสูง 2.40 – 2.70 เมตร ควรจะติดตั้งให้ห่างจากผนังประมาณ 45 เซนติเมตร
ไฟซ่อนในตู้ (NICHES) โคมไฟชนิดนี้ควรติดตั้งไว้ในชั้นบนสุดของตู้ และควรใช้กับชั้นที่ทำด้วยกระจก เพื่อที่แสงสว่างจากโคมไฟจะได้ส่องลงมาถึงส่วนล่างของตู้
โคมไฟส่องผนัง (WALL WASHING) โคมไฟชนิดนี้มีจุดประสงค์ในการใช้อยู่ 3 ประการ คือ ใช้เพื่อให้แสงสว่างแก่รูปภาพ ใช้ติดผนังที่มีการตกแต่งพื้นผิวและใช้สาดผนังทั่วไปเพื่อให้ความรู้สึกว่า ห้องกว้างขึ้น โคมไฟที่ใช้เป็นไฟส่องต้องเป็นชนิดที่ให้แสงสว่างสม่ำเสมอและควรวางห่างจาก \ ผนัง 0.45 ถึง 0.60 เซนติเมตร ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับระดับของผนังด้วย
โคมไฟสาดผนัง (GRAZING) การให้แสงสว่างอย่างถูกต้องกับผนังสามารถทำให้ผนังเปรียบเสมือนงานศิลปะในตัวเองโดยเฉพาะ ถ้าผนังที่มีพื้นผิว (TEXTURE) สวย ๆ ควรจะติดตั้งโคมไฟสาดผนังให้อยู่ห่างจากผนังประมาณ 0.30 เมตร และดวงโคมให้จัดวางห่างกันประมาณ 0.30 ถึง 0.60 เมตร
วันนี้ได้ทำความรู้จักกับโคมไฟหลากหลายรูปแบบ ซึ่งก็ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละคนนะครับ และที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของการประหยัดพลังงาน LAMPTAN ขอแนะนำให้เลือกใช้หลอดไฟ LED ที่มีคุณภาพจาก LAMPTAN เพื่อให้ทุกการใช้งานของคุณปลอดภัย และประหยัดพลังงาน ด้วยนวัตกรรมที่สร้างมาเพื่อคุณ
ขอบคุณข้อมูล :: homepro.co.th
ขอบคุณภาพ :: bloglovin.com , trendhunter.com, purewow.com